บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 3
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
วันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2558
กลุ่มเรียน 105 ( วันอังคาร ) เวลา 08.30 –
12.20 น.
วาดภาพเหมือนจริง และเขียนคำบรรยายจากที่ได้เห็นภาพว่าเห็นอะไรบ้าง |
บทบาทครูปฐมวัยในห้องเรียนรวม
ครูไม่ควรวินิจฉัย
•
การวินิจฉัย หมายถึงการตัดสินใจโดยดูจากอาการหรือสัญญาณบางอย่าง
•
จากอาการที่แสดงออกมานั้นอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้
ครูไม่ควรตั้งชื่อหรือระบุประเภทเด็ก
•
เกิดผลเสียมากกว่าผลดี
•
ชื่อเปรียบเสมือนตราประทับตัวเด็กตลอดไป
•
เด็กจะกลายเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ครูไม่ควรบอกพ่อแม่ว่าเด็กมีบางอย่างผิดปกติ
•
พ่อแม่ของเด็กพิเศษ มักทราบดีว่าลูกของเขามีปัญหา
•
พ่อแม่ไม่ต้องการให้ครูมาย้ำในสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว
•
ครูควรพูดในสิ่งที่เป็นความคาดหวังในด้านบวก
แต่ต้องไม่ให้เกิดความหวังผิดๆ
•
ครูควรรายงานผู้ปกครองว่าเด็กทำอะไรได้บ้าง
เท่ากับเป็นการบอกว่าเด็กทำอะไรไม่ได้
•
ครูช่วยให้ผู้ปกครองมีความหวังและเห็นแนวทางที่จะช่วยให้เด็กพัฒนา
ครูทำอะไรบ้าง
•
ครูสามารถชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมของเด็กในเรื่องที่เกี่ยวกับพัฒนาการต่างๆ
•
ให้ข้อแนะนำในการหาบุคลากรที่เหมาะสมในการประเมินผลหรือวินิจฉัย
•
สังเกตเด็กอย่างมีระบบ
•
จดบันทึกพฤติกรรมเด็กเป็นช่วงๆ
สังเกตอย่างมีระบบ
•
ไม่มีใครสามารถสังเกตอย่างมีระบบได้ดีกว่าครู
•
ครูเห็นเด็กในสถานการณ์ต่างๆ ช่วงเวลายาวนานกว่า
•
ต่างจากแพทย์ นักจิตวิทยา นักคลินิก มักมุ่งความสนใจอยู่ที่ปัญหา
ครูมองเห็นเด็กในภาพรวม
ทั้งด้านดีด้านไม่ดี และทำได้หรือทำไม่ได้
ครูเป็นคนเดียวที่สามารถสังเกตเด็กอย่างเป็นระบบได้
การตรวจสอบ
•
จะทราบว่าเด็กมีพฤติกรรมอย่างไร
•
เป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ครูและพ่อแม่เข้าใจเด็กดีขึ้น
•
บอกได้ว่าเรื่องใดบ้างที่เด็กต้องการความช่วยเหลือ
ข้อควรระวังในการปฏิบัติ
•
ครูต้องไวต่อความรู้สึกและตัดสินใจล่วงหน้าได้
•
ประเมินให้น้ำหนักความสำคัญของเรื่องต่างๆได้
•
พฤติกรรมบางอย่างของเด็กไม่ได้ปรากฏให้เห็นเสมอไป
เลือกลำดับความสำคัญของเด็กที่ควรจะแก้ไขอันไหนต้องรีบทำก่อนหลังหรือมองข้ามบางเรื่องไป
จัดเลียงลำดับให้เป็น
•
การนับอย่างง่ายๆ
•
การบันทึกต่อเนื่อง
•
การบันทึกไม่ต่อเนื่อง
•
นับจำนวนครั้งของการเกิดพฤติกรรม
•
กี่ครั้งในแต่ละวัน กี่ครั้งในแต่ละชั่วโมง
•
ระยะเวลาในการเกิดพฤติกรรม
•
ให้รายละเอียดได้มาก
•
เขียนทุกอย่างที่เด็กทำในช่วงเวลาหนึ่ง หรือช่วงกิจกรรมหนึ่ง
•
โดยไม่ต้องเข้าไปแนะนำช่วยเหลือ
ครูจะได้ข้อมูลละเอียดมากที่สุด
เป็นการบันทึกแบบบรรยาย ครูจะรู้พฤตจิกรรมของเด็กได้ดีที่สุด
•
บันทึกลงบัตรเล็กๆ
•
เป็นการบันทึกสั้นๆเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนในช่วงเวลาหนึ่ง
อย่าเขียนเยอะ
เอาพฤติกรรมที่เด็ดๆเท่านั้น
•
ควรเอาใจใส่ถึงระดับความมากน้อยของความบกพร่อง
มากกว่าชนิดองความบกพร่อง
•
พฤติกรรมไม่เหมาะสมที่พบได้ในเด็กทุกคน ไม่ควรจัดเป็นสิ่งผิดปกติ
•
ครูต้องตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง
•
พฤติกรรมของเด็กที่เกิดขึ้น
ไปขัดขวางความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กหรือไม่
ครูควรไตร่ตรองให้ดีที่สุดก่อนพูด
การนำไปประยุกต์ใช้
•
นำไปปฏิบัติและทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด
โดยที่ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด
•
นำเทคนิคต่างๆไปปรับใช้ และฝึกฝนให้เกิดความชำนาญให้ได้
•
นำไปปรับใช้ในการเรียนการสอนในอนาคตได้อย่างมีความสุข
การประเมิน
ตนเอง
ตั้งใจเรียนและจดบันทึกทุกครั้ง แต่งกายเรียบร้อยถูกระเบียบ
เพื่อน
ตั้งใจทำผลงานออกมาเป็นอย่างดี และมีการตอบคำถาม จดบันทึกส่วนที่สำคัญ
อาจารย์ ได้เตรียมแนวการสอนมาเป็นอย่างดี
และมีอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมมาให้นักศึกษาที่เพียงพอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น